1. วิธีที่ไม่ใช้สถิติ ใช้การตรวจสอบความครอบคลุมของข้อคำถาม ภาษาที่ใช้เขียน หรือ ภาษาที่พูด
- การตรวจสอบความครอบคลุมของเนื้อหา อาจจะใช้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนกี่คนก็ได้ตามความเหมาะสม
- ตรวจสอบความถูกต้องของภาษาความเข้าใจของผู้ตอบ ให้ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมือนผู้เป็นประชากรหรือผู้ที่ต้องตอบคำถามประมาณ ๒-๓ คน ว่าเข้าใจตรงกันหรือไม่เพียงไร มีความรื่นไหลเพียงใดในการตอบคำถาม
ความตรงเชิงเนื้อหา ใช้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความสอดคล้องแล้วนำผลการตรวจสอบมาคำนวณหาค่าความสอดคล้องระหว่าง ข้อคำถามกับวัตถุประสงค์หรือนิยาม (IOC: Item Objective Conguence Index) หรืออัตราส่วนความตรงเชิงเนื้อหา (CVR: Content Validity Ratio)
การหาค่าความสอดคล้องแบบ IOC
การหาค่าความตรงเชิงเนื้อหา โดยให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบข้อคำถาม ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ ด้านเนื้อหา ด้านวัดผลประเมินผลหรือด้านวิจัย อาจใช้ด้านภาษาด้วย เพื่อพิจารณาด้านภาษาที่ใช้ในข้อคำถาม จำนวนผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อย ๓ คน ควรมีคุณสมบัติด้านคุณวุฒิที่จบปริญญาโท และ/หรือ เคยทำวิทยานิพนธ์หรืองานวิจัย ควรประสานกับผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญยินดีช่วย ต้องทำคำชี้แจงและหนังสือนำตามหลักปฏิบัติและที่สำคัญ คือ รูปแบบของเครื่องมือที่จะให้ตรวจจะต้องถูกต้องครบถ้วน โดยเฉพาะนิยามหรือวัตถุประสงค์ที่จะให้เปรียบเทียบ การพิจารณาใน ๓ ประเด็น คือ เหมาะสม ไม่เหมาะสม และไม่แน่ใจ โดยพิจารณาข้อคำถามนั้นๆ วัดได้ตรงหรือสอดคล้องกับนิยามหรือไม่ พร้อมกับมีช่องว่างให้กรอกคำเสนอทั้งในรายข้อ รายด้าน และรวมทั้งฉบับ ใช้วิธีการกำหนดเป็นคะแนน
พิจารณาคัดเลือกในจุดประสงค์ หรือข้อสอบที่มีคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 0.50 ถึง 1.00 ซึ่งแสดงว่าจุดประสงค์นั้นวัดได้ครอบคลุมเนื้อหา หรือข้อสอบนั้นวัดได้ตรงจุดประสงค์ และถ้าข้อใดได้คะแนนเฉลี่ยต่ำกว่า 0.50 ต้องนำไปปรับปรุงแก้ไข เพราะว่ามีความสอดคล้องกันต่ำ
เข้าใจง่าย แต่น่าจะมีตัวอย่างมากกว่านี้จะดีมากเลยค่ะ
ตอบลบอ่านแล้วเข้าใจง่าย ขอบคุณที่ช่วยอธิบาย จะติดตามอ่านอีกค่ะ
ตอบลบดีมากค่ะ ได้ประโยชน์มากเลย
ตอบลบขอบคุณมาก ชัดเจนมาก
ตอบลบกำลังหาอยู่พอดี
ดูเหมือนว่า IOC: Item Objective Conguence Index) หรืออัตราส่วนความตรงเชิงเนื้อหา IOC กับ CVR: Content Validity Ratio
ตอบลบจะมีวิธีต่างกันเล็กน้อย
IC กับ IOC ต่างกันไหมคะ
ตอบลบเข้าใจดีมากครับ
ตอบลบ-ขอบคุณที่ให้ความรู่ค่ะ
ตอบลบขอบคุณมากที่สุด ขอให้สติปัญญาเป็นเลิศ รู้จริง เห็นจริง พบสิ่งที่ดีเลิศอนันตกาล
ตอบลบอ่านแล้วเข้าใจง่าย ขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุณมากค่ะ
ตอบลบขอบคุณมากต่ะ
ตอบลบในการบอกค่า ioc เราต้องบอกตามความเป็นจริง เช่น จำนวนผู้เชี่ยวชาญ
ตอบลบ5 คน ก็ควรจะบอกว่าข้อคำถามทุกข้อ มี่ค่า ioc ระหว่าง 0.6 - 1
หรือตั้งแต่ .6 ขึ้นไป จะบอกว่า ระหว่าง .5 - 1 หรือตั้งแต่ .5 ไม่จริงครับ เพราะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เชี่ยวชาญครับ
ผู้เชี่ยวชาญ 6 คนไม่ได้ครับ ตามหลักต้องเป็นจำนวนคี่ครับ และต้อง 3 คนขึ้นไป ส่วน จะใช้ .5 ขึ้นไป หรือ .6 ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการให้คะแนนพิจารณา ถ้าแบ่งระดับเกณฑ์ เป็น 3 เกณฑ์ (เห็นด้วย,ไม่แน่ใจ,ไม่เห็นด้วย) ใช้ .5 ขึ้นไปครับ ส่วนใช้ 2 เกณฑ์ (เห็นด้วย,ไม่เห็นด้วย) ใช้ .6 ขึ้นไป เนื้องจากไม่มีค่า 0
ลบค่าioc คือค่าความตรงและความเชื่อมั่นของเครื่องมือของผู้เชี่ยวชาญ
ตอบลบผลออกมาคือเห็นด้วย ไม่แน่ใจและไม่เห็นด้วย กับ +1 _1 และ0
มันคือตัวเดียวกันสามารถใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ผลก็คือ+
ความพึงพอใจต่อITC Statisticและค่า ioc มีวิธีคิดเหมือนกันหรือไม่ ใครรู้ช่วยตอบหน่อย
ตอบลบขอบคุณมากมานะคะ//วันนี้ มาค้นข้อมูล ได้ประโยชน์ มากค่ะ
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบค่า ioc ที่มีผู้ทำไว้แล้วนำมาใช้ได้ไหมคะ
ตอบลบConguence คำนี้อ่านว่าอย่างไรครับ
ตอบลบผิด...การหาค่าความตรงเชิงเนื้อหา ต้องหา ค่า CVR หรือ CVI "... IOC= เป็นการหาค่าคงามสอดค้องของจ้อคำถามกับวัตถุประสงค์ เป็นการหาความตรงของแบบวัด Test Item Validity.......................คามเข้าใจ...IOC
ตอบลบผิด...การหาค่าความตรงเชิงเนื้อหา ต้องหา ค่า CVR หรือ CVI "... IOC= เป็นการหาค่าคงามสอดค้องของจ้อคำถามกับวัตถุประสงค์ เป็นการหาความตรงของแบบวัด Test Item Validity.......................คามเข้าใจ...IOC เป็นความตรเชิงเนื้อหา....ผิด ทั่วประเทศ
ตอบลบ